อิฐบล็อคนาโน (Nano Block) หรือ Thai Nano Eco Block ถูกหล่อเป็นคอนกรีตแบบเปียก (Wet Process) เพื่อให้แข็งแรงทนทาน ไม่ดูดซึมน้ำ กันเสียงได้ดี โดยสามารถใช้วัสดุในท้องถิ่นหรือแม้กระทั่งวัสดุที่ไม่ใช้งานแล้วมาผสม การทำก็ง่าย สามารถจ้างแรงงานท้องถิ่นทำได้ ไม่ต้องใช้เครื่องมือหรือโรงงานขนาดใหญ่ ไม่ต้องเสียค่าขนส่ง
ลักษณะตัวบล็อคเป็นเดือยด้านบนและล่าง ทำให้ง่ายต่อการก่อผนังและสามารถช่วยรับแรงด้านข้างได้ดี สามารถก่อเองได้โดยไม่ต้องใช้ช่างก่อสร้าง ตัวบล็อกออกแบบให้มีรูกลวงตรงกลาง สามารถระบายความร้อน และยังทำให้เป็นฉนวนกันความร้อนหรือใส่วัสดุฉนวนกันความร้อนเพิ่มเติมได้ เช่น เพอร์ไลท์ ทรายหยาบ เป็นต้น และสามารถใช้ร้อยสายไฟฟ้าหรือสายต่างๆ ที่เกี่ยวกับการตกแต่งบ้านได้เลย ทำให้สะดวก และไม่ต้องเสียเวลาสกัดผนังเดิมออกเหมือนกับอิฐประเภทอื่น
จุดเด่นของการสร้างบ้านด้วยอิฐบล็อค นาโน
ไม่ต้องมีเสาคานมารับน้ำหนัก เพราะอาศัยหลัก wall bearing system โดยใช้ผนังอาคารเป็นตัวรับน้ำหนักแทนที่น้ำหนักจะลงไปที่เสาคาน ซึ่งน้ำหนักจะเฉลี่ยลงไปที่ผนังโดยรอบ แล้วลงไปที่ฐานรากที่ทำเป็นฐานแผ่ด้านล่าง หากเกิดการทรุดตัวก็จะทรุดลงไปเท่าๆ กัน ซึ่งเป็นเทคนิคของการก่อสร้างสมัยแรกๆ ในแถบประเทศที่สร้างบ้านด้วยอิฐหรือดิน การสร้างด้วยวิธีนี้นิยมใช้ในต่างประเทศ แต่ในประเทศไทยเองพบได้ที่ วัดพระแก้วหรือพระบรมมหาราชวัง จะหมดปัญหาตัวผนังร้าวหรือตัวอาคารทรุดไม่เท่ากัน
การผลิต อิฐบล็อคนาโน
อิฐบล็อคนาโน ที่คิดขึ้นใช้กระบวนการหล่อแบบเปียก (Wet Process) มีส่วนผสมของซีเมนต์ ทรายหยาบ หินเกล็ด และน้ำ เป็นคอนกรีตเบาที่มีน้ำหนักก้อนละ 5 กิโลกรัม ใช้หลักการของ ผนังรับแรง (Wall Bearing) ทำให้รับแรงอัดได้มากถึงก้อนละ 16 ตัน และทุกก้อนนั้นมีเดือยล็อคช่วยให้ผนังแข็งแรงมากยิ่งขึ้น ใช้งานสะดวกกว่าอิฐมอญ อิฐมวลเบา ตรงที่ไม่ต้องวางเรียงแล้วฉาบปูน แต่ใช้วิธีจุ่มปูนกาวแล้วเรียงลงล็อคเหมือนตัวต่อเลโก้ ยิ่งต่อกันก็ยิ่งรับแรงอัดได้มากขึ้น ทำให้คงทน แข็งแรง มีรูใส่สายไฟ ใส่ท่อประปาพร้อม แต่มีข้อจำกัดอยู่ที่เหมาะสำหรับการก่อสร้างบ้านหรืออาคารเพียง 1 – 2 ชั้น
ข้อจำกัดอิฐบล๊อคนาโน
ด้วยตัวของวัสดุเอง การใช้ผนังเป็นตัวรับน้ำหนัก และความต้องการของอาจารย์ชาติให้เจ้าของบ้านสามารถสร้างบ้านเองได้โดยไม่จำเป็นต้องมีความรู้ทางด้านเทคนิค การสร้างอิฐบล็อคนาโนอาจจะไม่เหมาะกับการสร้างอาคารที่สูงเกินกว่า 2 ชั้น หรือบ้านที่มีพื้นที่ใหญ่มาก เพราะจะเริ่มมีการคำนวนเรื่องการรับน้ำหนักและจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่ทำให้การสร้างบ้านหลังใหญ่มากไม่อยู่ในวงเงินหกหลักต้นๆ อย่างที่ตั้งใจไว้
นอกจากนั้นแล้วการต่อเติมจากตัวผนังเดิมอย่างที่เราเคยชินกันอาจจะไม่สามารถทำได้เพราะผนังอิฐบล็อคนาโนเป็นตัวรับน้ำหนักอาคาร ถ้ามีการเจาะ รื้อผนังบางส่วนออกจะกระทบกับการรับน้ำหนักตัวอาคารที่ทำไว้ตอนแรกได้ ไม่นับความยากเล็กๆ น้อยๆ อย่างการเจาะรู เพราะเนื้อคอนกรีตแข็งแรงมาก และถ้าจะใช้ก่อเป็นผนังภายในก็ต้องดูว่าเหมาะสมหรือไม่ เพราะอิฐหนาถึง 20ซม. ถ้าก่อแล้วอาจจะทำให้ผนังบ้านดูหนาเทอะทะ กินพื้นที่บ้านไปไม่น้อย